โรคลมบ้าหมู - อาการ สาเหตุ และการรักษา
โรคลมบ้าหมูหรือโรคลมชักเป็นความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลางที่เกิดจากรูปแบบที่ผิดปกติของการทำงานของไฟฟ้าในสมอง ทำให้เกิดอาการชัก ความรู้สึก และพฤติกรรมที่ผิดปกติจนหมดสติ
การรบกวนในรูปแบบของกิจกรรมทางไฟฟ้าของสมองและเส้นประสาทสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาจเป็นเพราะความผิดปกติในเนื้อเยื่อสมอง ความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง หรือจากหลายปัจจัยที่เป็นต้นเหตุ
อาการลมบ้าหมู
อาการชักเป็นอาการหลักของโรคลมบ้าหมูที่เกิดขึ้นเมื่อแรงกระตุ้นทางไฟฟ้าในสมองเกินขีดจำกัดปกติ สภาพแพร่กระจายไปยังบริเวณโดยรอบ และสร้างสัญญาณไฟฟ้าที่ไม่สามารถควบคุมได้ สัญญาณเหล่านี้จะถูกส่งไปยังกล้ามเนื้อทำให้กระตุกและกระตุก
ความรุนแรงของอาการชักในแต่ละคนที่เป็นโรคลมบ้าหมูนั้นแตกต่างกัน บางตัวอยู่ได้เพียงไม่กี่วินาทีและดูเหมือนจ้องเปล่าๆ หรือมีการเคลื่อนไหวของแขนและขาซ้ำๆ
สาเหตุของโรคลมบ้าหมู
อาการชักในผู้ที่เป็นโรคลมบ้าหมูสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียด ความเหนื่อยล้า หรือการใช้ยา ตามสาเหตุ โรคลมชักสามารถจำแนกได้เป็น:
- Idiopathic epilepsy ซึ่งเป็นโรคลมบ้าหมูที่ไม่ทราบสาเหตุ
- อาการลมบ้าหมู คือ โรคลมบ้าหมูที่เกิดขึ้นจากโรคที่ทำให้สมองเสียหาย
โรคลมบ้าหมูสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัยทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างไรก็ตาม โรคลมบ้าหมูมักเริ่มต้นในวัยเด็ก หรือแม้แต่เริ่มเมื่ออายุมากกว่า 60 ปี โรคลมชักเป็นโรคทางระบบประสาทที่พบบ่อยที่สุด จากข้อมูลของ WHO ในปี 2018 ผู้คนประมาณ 50 ล้านคนทั่วโลกประสบปัญหานี้
การวินิจฉัยโรคลมชัก
การวินิจฉัยโรคลมชักสามารถเกิดขึ้นได้หลังจากที่แพทย์ทำการตรวจร่างกาย โดยเฉพาะสภาพทางระบบประสาทของผู้ป่วย รวมทั้งชุดการทดสอบเพื่อยืนยันภาวะผิดปกติในสมอง เมื่อวินิจฉัยโรคลมบ้าหมูแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มการรักษาโดยเร็วที่สุด โดยปรับเปลี่ยนอาหารและยา
การรักษาโรคลมชัก
การบริหารยาอย่างเหมาะสมสามารถทำให้กิจกรรมทางไฟฟ้าในสมองคงที่ และสามารถควบคุมอาการชักในผู้ที่เป็นโรคลมบ้าหมูได้ ยารักษาโรคลมชักเป็นยากันชัก
ภาวะแทรกซ้อนจากโรคลมชัก
โรคลมบ้าหมูที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยในสถานที่ที่ไม่คาดฝัน อาจทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือกระดูกหักจากการล้มขณะชักได้ นอกจากอันตรายจากการบาดเจ็บแล้ว ผู้ที่เป็นโรคลมบ้าหมูอาจประสบกับภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคลมบ้าหมูและการเสียชีวิตอย่างกะทันหัน